ชัชชาติ ลาทิพย์ หลัง วิดีโอคอลล์ร่วมประชุม พูดคุยตัวแทน 50 เขต แม้ว่าตัวจะอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังเดินทางไปงานรับปริญญาลูก นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพ ที่ขณะนี้อยู่ที่เมืองซีแอทเติล รัฐวอชิงตัง ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมงานรับปริญญาของนายแสนปิติ สิทธิพันธุ์ หรือแสนดี บุตรชาย ซึ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
อย่างไรก็ตามแม้นาย ชัชชาติ จะเคยกล่าวไว้ว่าเขาได้ลาราชการเป็นระยะเวลา 4 วัน
แต่จากไลฟ์เฟซบุ๊กของนาย ชัชชาติ นั้นแสดงให้เห็นว่า นาย ชัชชาติ ที่แม้ตัวจะอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกาก็ยังได้วิดีโอคอลล์เข้ามา ร่วมพูดคุยกับตัวแทนสำนักงานเขต 50 เขต ในงานสัมมนาอบรม การใช้ Traffy Fondue เพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับ Traffy Fondue (ทราฟฟี่ฟองดูว์ / ท่านพี่ฟ้องดู) เป็นแอพฯ ที่ถูกพัฒนาโดย ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม นักวิจัยประจำศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และเปิดให้ใช้งานตั้งแต่ มิ.ย.2561
และเป็นพื้นที่ให้ประชาชนสามารถใช้ในการแจ้งปัญหาผ่านไลน์ และจะมีระบบ ตอบอัตโนมัติในการสอบถามรายละเอียดของปัญหาและข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็น เพื่อนำไปแก้ปัญหาต่อไป
สำหรับ Traffy Fondue นั้นประชาชนสามารถแจ้งปัญหาได้ตั้งแต่เรื่อง ไฟฟ้า การจรจาร ความปลอดภัย ความสะอาด ระบบสื่อสาร รวมไปถึงเรื่องวัสดุ หรือ อาคารชำรุดด้วย
สมาคมชาวไทยในวอชิงตัน เผยข่าวดีสำหรับประชาชนที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า ชัชชาติ เตรียมเข้าพบประชาชนในวันที่ 11 มิ.ย. นี้ เพจเฟซบุ๊ก Thai Association of Washington State หรือ ทาวา (TAWA) ซึ่งเป็นสมาคมสำหรับช่วยเหลือส่งเสริมชาวไทยที่อาศัยในรัฐวอชิงตัง ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ประชาสัมพันธ์ว่า
นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพ เตรียมเข้าพบกับประชาชนที่ University Branch – The Seattle Public Library ในวันที่ 11 มิถุนายน เวลา 16.30 น. ถึง 17.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น สำหรับประชาชนที่อยากเข้าร่วมนั้น ทางทาวา แจ้งว่าห้องนั้นจำกัดความจุของผู้เข้าร่วม ไม่มีการจองคิว และจะเปิดรับผู้สนใจเข้าร่วมตามลำดับการมาถึงสถานที่จัดงาน
ราชกิจจาฯ เผยประกาศ ไทยกู้เงินญี่ปุ่น 1.3 หมื่นล้าน กระตุ้นเศรษฐกิจผลกระทบโควิด
ราชกิจจานุเบกษา เผย ไทยกู้เงินญี่ปุ่น 1.3 หมื่นล้าน เพื่อนำไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ไทยกูเงินญี่ปุ่น เป็นเงิน 1.3 หมื่นล้าน เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจสังคมจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมีอายุเงินกู้ 15 ปี
โดยในเอกสารระบุว่า “เพื่ออนุวัติตามนัยมาตรา 8 แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ประกอบมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่ากระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ตามมติเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2565และอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดให้อำานาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564
กระทรวงการคลังได้ลงนามในสัญญาเงินกู้กับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JapanInternational Cooperation Agency: JICA) เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 โดยมีสาระสำคัญและเงื่อนไขของการกู้เงิน ดังต่อไปนี้
1. เป็นเงินกู้สกุลเงินเยน จำนวน 50,000 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 13,432.35 ล้านบาท (คำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยนขายถัวเฉลี่ยของเงินบาทกับเงินเยน ณ วันลงนามในสัญญา คือ 26.8647 บาท ต่อ 100 เยน) อายุเงินกู้ 15 ปี ระยะปลอดการชำระคืนเงินต้น 4 ปี
2. อัตราดอกเบี้ยคงที่ ร้อยละ 0.01 ต่อปี กำหนดชำระปีละ 2 งวด โดยชำระในวันที่ 20 พฤษภาคม และวันที่ 20 พฤศจิกายน ของแต่ละปี
3. อัตราค่าธรรมเนียมการกู้เงิน (Front-End Fee) ร้อยละ 0.20 ของวงเงินกู้โดยต้องชำระภายใน 60 วัน หลังจากสัญญาเงินกู้มีผลบังคับใช้
4. กำหนดชำระคืนต้นเงินกู้ทุกวันที่ 20 พฤษภาคม และวันที่ 20 พฤศจิกายนโดยชำระต้นเงินกู้งวดแรกในวันที่ 20 พฤษภาคม 2569 และชำระคืนต้นเงินกู้งวดสุดท้ายในวันที่ 20 พฤษภาคม 2580
5. เพื่อนำไปใช้จ่ายสำหรับแผนงาน/โครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564”
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง